“ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกนะ” เลิกพูดแบบนี้ได้แล้ว ถ้าอยากจะสร้างทีม

Kan Ouivirach
Feb 21, 2022

--

Photo by CoWomen on Unsplash

หนังสือ It Doesn’t Have to Be Crazy at Work เป็นหนังสือที่ผมมักจะย้อนกลับมาอ่านซ้ำ และใช้อ้างอิงมากที่สุดในชีวิตการทำงาน ซึ่งวันนี้ก็ได้กลับมาอ่านบท “อย่าเป็นคนสุดท้ายที่รู้” อีกครั้ง เลยมาเขียนสรุปเก็บไว้

เคยได้ยินกันไหมครับว่าพี่ๆ ที่เป็นระดับซีเนียร์ หรือหัวหน้าทีมมักจะมีคำพูดติดปากอย่างหนึ่งว่า “ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกนะ” หรือประโยคที่ว่า “My door is always open” ซึ่งจริงๆ แล้วประโยคพวกนี้แหละคือปัญหา และเป็นปัญหาที่จะค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในการสร้างทีม สร้างวัฒนธรรมในองค์กร

ซึ่งผมเองก็เคยพูดนะ แต่เดี๋ยวนี้ลดน้อยลงแล้ว เพราะอะไรหนังสือเล่มนี้ถึงบอกว่ามันเป็นปัญหาล่ะ แล้วทำไมผมถึงเห็นด้วยกับเค้า? หนังสือเค้าบอกแบบนี้ครับ

ประโยคนี้เป็นการผลักความรับผิดชอบเรื่องการเปิดปากพูดไปที่พนักงาน

หลายๆ คนฟังแล้วอาจจะมีความรู้สึกประมาณว่า.. ดีจังเลย หัวหน้าทีมเปิดกว้างรับฟังปัญหา เราสามารถเข้าไปหาเค้าได้ทุกเมื่อเลย

ก็อาจจะจริงก็เป็นได้ครับ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย น้อยคนมากครับ เรียกว่าแทบจะไม่มีเลยดีกว่าที่จะเข้าไปคุย 😅 ลองรีวีวกับเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา บ่อยครั้งแล้ว พอเรามีปัญหาจริงๆ ในทีม หัวหน้านี่แหละจะเป็นคนที่รู้เรื่องคนสุดท้าย และส่วนใหญ่ปัญหาก็จะบานปลายไปแล้ว อาจจะต้องมีการเสียน้ำตากันได้ บ้างก็อาจจะลาออกไปแบบสิ้นหวังกับบริษัท หรือสุดท้ายก็จะมีประโยคจากพนักงานที่ยังทำงานอยู่ว่า “เบื้องบนเค้าจะมารู้อะไร เค้าไม่ได้มาดูเราทำงานสักหน่อย”

หัวหน้าก็จะบอกลูกน้องกลับไปว่า “มีปัญหาแล้วทำไมไม่มาบอก?”

คุ้นๆ กันไหม? 🙂 ก็ติดลูปกันไปครับ

อย่าง Harvard Business Review ก็มีลงบทความเขียนถึงปัญหาประมาณนี้อยู่ด้วยนะ

ทีนี้ถ้าคนที่หลงเข้ามาอ่านกำลังสร้างทีมอยู่ โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้า หรือผู้นำองค์กร ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนก็ตามนะครับ สามารถป้องกันลูปที่พูดถึงข้างต้นได้โดยการเลิกพูดประโยคแบบนั้นกันนะ

เราไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้เกิดเรื่องก่อนถึงจะได้รู้เรื่องเหล่านั้น เราสามารถ “ถาม” ได้ และเข้าไปพูดคุยกับทีม ถ้าเราทำงานกันด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เราก็จะรู้เรื่องความเป็นไปในทีม ความเป็นไปในองค์กร ช่วงแรกๆ อาจจะไม่ค่อยได้อะไร แต่ถ้าทำเป็นประจำเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็น่าจะได้เรื่องราวที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ เอง สุดท้ายเค้าก็จะมาคุยกับเราเอง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องพูดประโยคผลักภาระนั้นอีกต่อไป

จริงๆ ในองค์กร เมื่อคนเรามีตำแหน่งยิ่งสูงเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งหนาวเท่านั้น เพราะเป็นจุดที่มีน้อยคนที่จะเข้าถึง ยิ่งเป็น CEO ยิ่งอาจจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคนทำงานเลยก็เป็นได้นะ ลองหาเวลามาคุยกับคนในทีม กับคนทำงานดูนะครับ แค่เดินมารับฟังปัญหาด้วยตัวเอง มาถามไถ่ แค่นี้เดี๋ยวทุกๆ อย่างมันก็จะดีขึ้นเอง

ผมคิดว่าเราหมดยุคที่จะนั่งอยู่ในห้องรอฟังปัญหาแล้วล่ะครับ เดินออกมากันเถอะ ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับ 😉

--

--

Kan Ouivirach

Data Craftsman. Passionate in software engineering, data engineering, and data science. ♥